มรภ. 38 แห่ง เปิดโมเดลผลิตบัณฑิตและพัฒนาครูฐานสมรรถนะ

มรภ. 38 แห่ง เปิดโมเดลผลิตบัณฑิตและพัฒนาครูฐานสมรรถนะ

น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้กล่าวตอนหนึ่งในการแถลงข่าว “รูปแบบร่วมในการผลิตบัณฑิตและพัฒนาครูฐานสมรรถนะเพื่อพัฒนากำลังคนสำหรับศตวรรษที่ 21” (PTRU Model : Professional Teacher of Rajabhat University) เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ที่โรงแรมอัศวิน แกรนด์ กรุงเทพมหานคร โดยมี นางลินดา เกณฑ์มา อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา (มบส.) ในฐานะประธานที่ประชุมอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏ (ทปอ. มรภ.) , นางอมลวรรณ วีระธรรมโม เลขาธิการคุรุสภา , นายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) และ นายพาสิทธิ์ หล่อธีรพงศ์ รองปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) เข้าร่วมการแถลงข่าวด้วย

โดย น.ส.ตรีนุช ได้กล่าวว่า การพัฒนาครูถือเป็นหนึ่งในแผนยุทธศาสตร์ชาติ และอีกทั้งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 ซึ่งได้พูดถึงกลไกระบบพัฒนาวิชาชีพครูด้วย ดังนั้น ครู จึงมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง แต่ในวันนี้ เราต้องยอมรับว่าโลกมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก วึ่งเราจะทำอย่างไรให้การศึกษาสามารถปรับเปลี่ยนเพื่อให้เด็กและเยาวชนสามารถอยู่ในโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วนี้ได้ ครูจึงถือเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนการศึกษา โดยเกือบ 2 ปี ที่ตนเข้ามาทำงานใน ศธ.ได้เห็นความท้าทายหลายๆ เรื่อง

เช่น ที่ผ่านมาเรามักจะพูดว่าต้องเปลี่ยนกระบวนการเรียนการสอน ให้สอดรับกับศตวรรษที่ 21 แต่การจะเปลี่ยนโดยฉับพลันนั้น อาจจะยังทำไม่ได้ จึงต้องกลับมามองที่หน่วยผลิตครู ซึ่ง มรภ. ถือเป็นหน่วยงานใหญ่ในการผลิตครู ซึ่งตนดีใจที่มรภ.ทั้ง 38 แห่ง ได้จัดทำโมลเดลผลิตบัณฑิตครู (PTRU Model) โดยกำหนกสมรรถนะบัณฑิตราชภัฎ ไว้ 17 สมรรถนะ ซึ่งโมเดลนี้ ถือเป็นแกนกลางที่ให้มรภ. สามารถนำไปใช้ ซึ่งแต่ละแห่งก็สามารถนำโมเดลนี้ปรับใช้ให้สอดคล้องกับบริบทของตนได้อีกด้วย

“นอกจากสมรรถนะครูทั้ง 17 สมรรถนะแล้ว ปัจจุบันทักษะทางด้านภาษาก็เป็นสิ่งจำเป็นเช่นกัน โดยเฉพาะภาษาอังกฤษ ซึ่งดิฉันพบข้อมูลว่า ในการทดสอบเพื่อขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู วิชาที่มีผู้ผ่านน้อยที่สุด คือ วิชาภาษาอังกฤษ ซึ่งในมุมมองของดิฉัน มองว่าครูควรจะมีความรู้เกี่ยวกับศัพท์เฉพาะในวิชาที่ตนเองสอน และสามารถใช้ภาษาอังกฤษขั้นพื้นฐานได้ เพราะวันนี้เราต้องยอมรับว่าเรื่องภาษาเราทิ้งไม่ได้ ครูจะต้องอัพเดทองค์ความรู้ของตนเองอยู่ตลอดเวลา การมีความรู้ทางด้านภาษาก็จะช่วยให้ครูได้เข้าถึงความรู้เพิ่มมากขึ้น และยังสามารถนำความรู้ มาสอนนักเรียนต่อไปได้ รวมทั้งความรู้ทางด้านเทคโนโลยี และการพัฒนาในเรื่องของจิตวิทยาเด็ก จากการที่ได้ลงพื้นที่ พบสิ่งสำคัญคือ ครูจะต้องทราบว่าจะพัฒนาการสอน และใช้เทคโนโลยีให้สอดคล้องกับเด็กแต่ละช่วงวัยได้อย่างไร ซึ่งต่อไป ศธ.จะเร่งให้คุรุสภาทำการรับรองโมลเดลผลิตบัณฑิตครู เพื่อนำไปสู่แนวปฏิบัติต่อไป” น.ส.ตรีนุช กล่าว

มรภ. 38 แห่ง เปิดโมเดลผลิตบัณฑิตและพัฒนาครูฐานสมรรถนะ

ทางด้าน ผศ.ดร.ลินดา กล่าวว่า จุดเริ่มต้นของการยกระดับคุณภาพการผลิตครู และการพัฒนาครูของ มรภ. เริ่มตั้งแต่ปี 2561 โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ทำการศึกษาข้อมูลอย่างรอบด้าน และได้ยกร่างโมเดลการผลิตและพัฒนาบัณฑิตครู มรภ.ในปี 2563 และได้นำโมเดลไปใช้โดยทำการทดลองควบคู่ไปกับการวิจัย และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งที่ผ่านมาได้รับการตรวจเยี่ยมจาก พลเอก ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ องคมนตรี มาอย่างต่อเนื่อง และจากที่องคมนตรี ได้ตรวจติดตามผลการดําเนินงานตามยุทธศาสตร์ มรภ. ประจําปี 2565 พบว่า

มรภ.แต่ละแห่งได้รายงานถึงการสร้างรูปแบบร่วมในการผลิตบัณฑิตครูให้มีสมรรถนะและอัตลักษณ์เฉพาะ มหาวิทยาลัย กล่าวคือ ได้ทดลองใช้หลักสูตรแกนกลางในการผลิตบัณฑิตครู ที่ถูกเติมเต็มความเชี่ยวชาญเฉพาะทางตามบริบทของแต่ละ มรภ. เพิ่มขึ้นเข้าไปอีก สำหรับ โมลเดลผลิตบัณฑิตครู มีสมรรถนะบัณฑิตราชภัฎ 17 สมรรถนะ ดังนี้

ปฏิบัติงานครูอย่างมืออาชีพ
2.ภาวะผู้นำและสัมพันธ์ชุมชน
3.บริหารจัดการชั้นเรียน
4.ทำงานเป็นทีม
5.ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล
6.สื่อสารอย่างมีกลยุทธ์
7.บุคลิกภาพความเป็นครูและทัศนคติในการปรับตัว
8.จิตอาสา จิตสาธารณะ
9.ศิลปะการใช้สื่อ
10.อไนวยการเรียนรู้
11.วัดและประเมิน
12.ประยุกต์ใช้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
13.ออกแบบและพัฒนาหลักสูตร
14.เป็นผลเมืองดี
15.บูรณาการศาสตร์สู่การสอน
16.นวัตกรรมทางการศึกษา
17.จิตวิญญาณความเป็นครู

“ซึ่ง มรภ. มีความมั่นใจและภูมิใจอย่างยิ่งว่า โมลเดลผลิตบัณฑิตครู จะมีความสมบูรณ์และสอดคล้องกับความต้องการบัณฑิตครูในศตวรรษที่ 21 อย่างแท้จริง ที่จะทําให้คุรุสภาในฐานะผู้กํากับมาตรฐานวิชาชีพครูมั่นใจได้ว่าจะได้ครู ที่มีความเป็นมืออาชีพตามมาตรฐาน และเพิ่มจากมาตรฐานในส่วนของบริบทความสอดคล้องกับความหลากหลายเชิงพื้นที่ของประเทศไทย รวมทั้งทําให้สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ในฐานะผู้ใช้บัณฑิตมั่นใจได้ว่าท่านจะได้บุคลากรครูที่ท่านพึงประสงค์จากกระบวนการผลิตของ มรภ.อย่างแน่นอน” ผศ.ดร.ลินดา กล่าว

ด้าน ผศ.ดร.อมลวรรณ กล่าวว่า โมลเดลผลิตบัณฑิตครู ที่ มรภ.ทั้ง 38 แห่ง ร่วมกันออกแบบได้สอดคล้องกับนโยบายของศธ. ที่ต้องการให้ผลิตครูคุณภาพสู่สังคม ในส่วนของคุรุสภา ที่ทำหน้าที่เป็นสภาวิชาชีพ มองว่าโมเดลผลิตบัณฑิตครูนี้ จะเป็นโมเดลที่สามารถตอบโจทย์มาตรฐานวิชาชีพได้เป็นอย่างดี เชื่อมั่นว่าบัณฑิตที่ผ่านการบ่มเพาะจากมรภ. ทั้ง 38 แห่ง จะเป็นครูมืออาชีพได้ และจากที่ทางคุรุสภาได้ทำการตรวจสอบ โมลเดลผลิตบัณฑิตครู จำนวน 17 สมรรถนะในเบื้องต้น พบว่า เป็นไปตามตามข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2562 ทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นมาตรฐานความรู้และประสบการณ์วิชาชีพ, มาตรฐานการปฏิบัติงาน และมาตรฐานการปฏิบัติตน จึงเชื่อว่าหากนำโมเดลนี้ไปใช้จะทำให้เราได้ครูมืออาชีพ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของประเทศได้ต่อไป

นายอัมพร กล่าวว่า ถือเป็นเรื่องดีที่ มรภ.ได้คิดค้นโมเดลผลิตครูขึ้นมา เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของประเทศในหลายๆมิติ เมื่อ มรภ.กำหนดโมเดลผลิตบัณฑิตครูแล้ว หากทุกฝ่าย คือ ผู้ผลิตและผู้ใช้ครู ก็จะสามารถพัฒนาครูร่วมกันได้ และจะทำให้เราได้ครูที่เข้าใจบริบทความแตกต่างของเด็ก เข้าใจความแตกต่างของโรงเรียนแต่ละแห่งที่มีความแตกต่างกันได้

และในส่วนของ สพฐ.มีแผนการใช้ครูล่วงหน้าเป็น 10 ปี ซึ่งทำให้ สพฐ.ทราบว่า อีก 5 ปีข้างหน้าต้องการใช้ครูเอกอะไรบ้าง ซึ่งจะต้องมอบโจทย์ให้กับสถาบันผลิตครูว่า ควรจะผลิตครูเอกไหน จำนวนเท่าใด

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ hotelselectgarden.com

แทงบอล

Releated